แทงบอล 1X2 การแทงบอลไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ยังสับสนกับคำว่า “ราคาต่อรอง” หรือ “แฮนดิแคป” การแทงบอลแบบ 1X2 คือทางเลือกที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย และไม่ต้องคิดเรื่องแต้มต่อให้วุ่นวาย เพราะการเดิมพันในรูปแบบนี้ยึดหลักแค่ 3 ทางเลือกหลักคือ “เจ้าบ้านชนะ – เสมอ – ทีมเยือนชนะ” เท่านั้น
เราอาจคุ้นชินกับการแทงบอลที่มีราคาต่อรอง เช่น ทีมเก่งต้องยิงขาดถึงจะได้เงิน หรือมีแต้มต่อที่ต้องนำมาคิดผลแพ้ชนะ แต่สำหรับ 1X2 นั้น ไม่ว่าทีมไหนจะยิงกี่ลูก ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่ “ทายผลให้ถูก” ว่าใครจะชนะ หรือจะจบด้วยผลเสมอ เท่านั้นเอง
หัวใจของบทความนี้คือการพาคุณไปทำความเข้าใจ แทงบอล 1X2 อย่างละเอียด ตั้งแต่วิธีการเล่น ข้อดีข้อเสีย ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับการเดิมพันแบบแฮนดิแคป รวมถึงเทคนิคการใช้ 1X2 ให้ได้ผลจริง ซึ่งทั้งหมดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า รูปแบบนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ โดยเฉพาะถ้าคุณเพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของการแทงบอล
แทงบอล 1X2 คืออะไร? มือใหม่เข้าใจใน 3 นาที
การแทงบอลแบบ 1X2 คือหนึ่งในรูปแบบการเดิมพันที่ง่ายที่สุดและได้รับความนิยมในระดับสากล โดยเฉพาะในยุโรปและเว็บไซต์ที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งชื่อ 1X2 นั้นเป็นสัญลักษณ์แทนผลลัพธ์ของการแข่งขันฟุตบอลแบบสามทางเลือก ได้แก่ :
- 1 = ทีมเจ้าบ้านชนะ
- X = ทั้งสองทีมเสมอกัน
- 2 = ทีมเยือนชนะ

คุณเพียงแค่เลือกว่าคุณเชื่อว่าผลการแข่งขันจะออกมาในรูปแบบใด หากทายถูกก็รับเงินเดิมพันตามราคาค่าน้ำที่กำหนดไว้ ไม่มีการคิดแต้มต่อ หรือสกอร์รวมแบบละเอียดให้ยุ่งยากเหมือนการเดิมพันแฮนดิแคป การเล่นแบบ 1X2 จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นแทงบอล เพราะไม่ต้องเข้าใจระบบราคาบอลที่ซับซ้อน ไม่ต้องคำนวณผลชนะ-แพ้แบบมีแต้มต่อ และไม่ต้องรู้ศัพท์เทคนิคมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดความกังวลสำหรับมือใหม่ได้อย่างมาก
นอกจากนี้ การเล่นแบบ 1X2 ยังมีจุดแข็งคือเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย แม้ไม่เคยแทงบอลมาก่อน ก็สามารถดูแค่ชื่อทีม ฟอร์มการเล่น และเลือกทายผลได้ทันที โดยเฉพาะในลีกใหญ่ที่ข้อมูลสถิติมีให้ศึกษาอย่างครบถ้วน ซึ่งหากคุณยังไม่แน่ใจว่า แทงบอลคือ หรือมีกี่แบบ ลองกลับไปอ่านเพิ่มเติมที่ แทงบอลคือ เพื่อเข้าใจโครงสร้างการเดิมพันทั้งหมดก่อนเริ่มต้น
วิธีเล่นแทงบอล 1X2 เล่นยังไงให้เข้าใจง่ายและแม่นยำ
การเล่นแทงบอลแบบ 1X2 นั้นไม่ซับซ้อนเลยแม้แต่น้อย โดยทั่วไปคุณสามารถเดิมพันได้ทั้งแบบก่อนการแข่งขัน (Pre-match) และระหว่างการแข่งขัน (Live) ซึ่งระบบของเว็บแทงบอลส่วนใหญ่จะจัดวางตัวเลือก 1X2 อย่างชัดเจน ทำให้แม้เป็นผู้เล่นใหม่ก็สามารถเริ่มต้นได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทำความเข้าใจเรื่องราคาต่อหรือค่าน้ำที่ยุ่งยากเหมือนแฮนดิแคป

ขั้นตอนเดิมพันแบบ 1X2 บนเว็บแทงบอล
- เข้าสู่ระบบเว็บแทงบอลที่คุณใช้งาน
- เลือกเมนู “ฟุตบอล” → จากนั้นเลือกคู่ที่ต้องการเดิมพัน
- มองหาตัวเลือก “1X2” ซึ่งมักจะวางข้างราคาต่อรองและค่าน้ำ
- คลิกเลือกผลลัพธ์ที่คุณต้องการ เช่น ทีมเจ้าบ้านชนะ (1)
- ใส่จำนวนเงินเดิมพัน → กดยืนยันบิล
ตัวเลือก 1X2 มักจะมีราคาค่าน้ำแสดงอยู่ข้าง ๆ เช่น 1.85, 2.00 หรือ 3.10 ซึ่งหมายถึงเงินรางวัลที่คุณจะได้รับหากทายถูก ตัวอย่างเช่น หากคุณแทง “เสมอ (X)” ที่ราคา 3.10 ด้วยเงิน 100 บาท หากผลจบที่เสมอ คุณจะได้เงินคืน 310 บาทรวมทุน
ตัวอย่างจริง : ใช้ทีมใหญ่ vs ทีมเล็กในการอธิบาย
สมมุติว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเจอกับ ลูตัน ทาวน์ ในพรีเมียร์ลีก:
- 1 (แมนฯ ซิตี้ ชนะ): ราคาค่าน้ำ 1.25
- X (เสมอ): ราคาค่าน้ำ 5.50
- 2 (ลูตัน ชนะ): ราคาค่าน้ำ 9.00
หากคุณมั่นใจว่าแมนฯ ซิตี้ จะชนะ คุณก็สามารถเลือกเดิมพันที่ “1” ได้เลย ไม่ต้องคิดว่าชนะกี่ลูก หรือจะมีแต้มต่อเท่าไหร่ ขอแค่ชนะ = ได้บิล
ด้วยความที่ระบบ 1X2 ชัดเจนตรงไปตรงมา จึงถือว่าเป็นหนึ่งในประเภทการแทงบอลที่เหมาะกับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะหากคุณยังไม่ถนัดในการอ่านราคาต่อรองหรือยังไม่เข้าใจแฮนดิแคปทั้งหมด สามารถย้อนกลับไปอ่านเพิ่มเติมที่บทความ ประเภทการแทงบอล เพื่อสำรวจว่ารูปแบบอื่น ๆ มีอะไรที่คุณอาจสนใจเพิ่มเติม
1X2 แตกต่างจากแฮนดิแคปยังไง?
แม้ว่า 1X2 และแฮนดิแคปจะเป็นรูปแบบการแทงบอลที่ได้รับความนิยมสูงพอ ๆ กัน แต่ทั้งสองมี แนวคิดการเดิมพันที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะในเรื่องของ “ราคาต่อรอง” และ “การคิดผลได้-เสีย” ที่ส่งผลต่อกลยุทธ์การเล่นของนักพนันอย่างชัดเจน แทงบอลแบบ 1X2 คือการเลือกผลลัพธ์ “ใครชนะ หรือเสมอ” โดยไม่มีเรื่องของแต้มต่อเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ แฮนดิแคป จะมีราคาต่อรองที่ทำให้ทีมเก่งต้องยิงมากกว่าหรือทีมรองต้องแพ้น้อยที่สุด เพื่อให้การเดิมพันสมดุลขึ้น
ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบแบบเข้าใจง่าย :
หัวข้อเปรียบเทียบ | แทงบอลแบบ 1X2 | แทงบอลแบบแฮนดิแคป |
รูปแบบการแทง | ทายผล: ชนะ / เสมอ / แพ้ | ทายผลโดยมีแต้มต่อรอง |
ความซับซ้อน | ง่าย เข้าใจเร็ว | ต้องคำนวณแต้มต่อให้แม่น |
การคิดผล | ถูก = ได้เต็ม / ผิด = เสียเต็ม | มีได้เต็ม / ครึ่ง / เสียครึ่ง |
เหมาะกับใคร | มือใหม่ หรือคนไม่ชอบคิดมาก | คนชำนาญที่วิเคราะห์เก่ง |
โอกาสชนะ | 1 ใน 3 ทางเลือก (33.3%) | เปลี่ยนไปตามราคา & ฟอร์มทีม |
กลยุทธ์การเล่น | พิจารณาแค่ผลการแข่งขัน | ต้องคำนึงถึงผลต่างสกอร์ด้วย |
การเลือกว่าควรเล่นแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสไตล์และความถนัดของแต่ละคน หากคุณยังสับสนว่าควรเริ่มจากแบบใดก่อน แนะนำให้อ่านบทความ แฮนดิแคป vs 1X2 ซึ่งเราอธิบายเชิงลึกและยกตัวอย่างจริง เพื่อช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ข้อดีข้อเสียของการแทงบอลแบบ 1X2
แม้การแทงบอลแบบ 1X2 จะได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นมือใหม่ แต่ก็เหมือนกับการเดิมพันทุกรูปแบบที่มีทั้งจุดแข็งและข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะหากคุณต้องการนำไปใช้เป็นกลยุทธ์ทำกำไรระยะยาว การเข้าใจข้อดีข้อเสียจะช่วยให้คุณเลือกวิธีเล่นที่เหมาะกับตัวเองได้มากขึ้น

ข้อดี : เล่นง่าย ไม่งง ไม่ต้องเข้าใจแต้มต่อ
- ✅ เข้าใจง่ายทันที แค่เลือกผลลัพธ์ชนะ-เสมอ-แพ้ โดยไม่ต้องเรียนรู้ราคาต่อรอง
- ✅ เหมาะกับมือใหม่ ที่ยังไม่คุ้นเคยกับค่าน้ำ แฮนดิแคป หรือสกอร์ทดเวลา
- ✅ วิเคราะห์ได้จากผลการแข่งขันตรง ๆ ไม่ต้องสนว่าทีมต้องยิงกี่ลูก เพียงแค่ชนะก็ได้เงิน
- ✅ เล่นควบกับบอลเต็งหรือบอลสเต็ปได้ เพราะส่วนใหญ่เว็บเปิดราคา 1X2 ควบคู่กับรูปแบบอื่น
ข้อเสีย : ค่าน้ำอาจไม่คุ้มในบางคู่
- ⚠️ ราคาจ่ายต่ำในคู่ต่างชั้น เช่นทีมใหญ่เจอกับทีมท้ายตาราง มักได้ค่าน้ำน้อย (1.20–1.30)
- ⚠️ โอกาสเสมอทำให้หลายคนพลาดบิล โดยเฉพาะถ้ากดฝั่งใดฝั่งหนึ่งโดยไม่มอง X
- ⚠️ ไม่มีโอกาส “ได้ครึ่ง” หรือ “เสียครึ่ง” เหมือนแฮนดิแคป เพราะผลจะได้-เสียเต็มเท่านั้น
- ⚠️ เสี่ยงผิดพลาดหากไม่วิเคราะห์ฟอร์มทีมให้ดี เพราะไม่มีแต้มต่อช่วยบาลานซ์
เทคนิคการเล่น 1X2 ให้มีโอกาสชนะสูงขึ้น
แม้ว่าการแทงบอลแบบ 1X2 จะดูเรียบง่าย แต่หากเล่นแบบ “ทายตามใจ” โดยไม่มีข้อมูลหรือแนวทาง ก็มีโอกาสเสียได้ไม่ต่างจากรูปแบบอื่น ๆ ดังนั้นการมีเทคนิคหรือแนวคิดช่วยเสริม จะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรให้คุณได้จริง โดยเฉพาะถ้าใช้ร่วมกับข้อมูลที่วิเคราะห์มาอย่างรอบคอบ
🟢 วิเคราะห์ฟอร์มทีมล่าสุดและความพร้อมของนักเตะตัวจริง
การดูสถิติ 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด หากทีมใดชนะต่อเนื่อง และมีเกมรุกที่เฉียบคม ก็สามารถพิจารณาแทง “1” หรือ “2” ได้ตามฝั่งเจ้าบ้านหรือเยือน แต่ถ้าทั้งสองทีมฟอร์มใกล้เคียงหรือเน้นเกมรับ อาจพิจารณาเลือก “X” หรือผลเสมอแทน
นอกจากนี้ การดูรายชื่อนักเตะตัวจริงก่อนเกมเตะยังช่วยตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น เช่น หากทีมมีตัวหลักบาดเจ็บหรือติดโทษแบน โอกาสชนะจะลดลงทันที
🟢 หลีกเลี่ยงการแทง “X” ในลีกที่ยิงเยอะ
ตัวเลือก “X” หรือเสมอ แม้จะมีราคาจ่ายสูง แต่มักเกิดขึ้นน้อยในลีกที่มีสไตล์การเล่นเปิดเกมแลก เช่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ บุนเดสลีกา เยอรมัน ซึ่งมักจะยิงกันอย่างน้อย 2-3 ลูกขึ้นไป จึงไม่เหมาะกับการแทงเสมอ
หากคุณสนใจข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการเดิมพันแบบ 1X2 และข้อมูลจากฝั่งยุโรป แนะนำให้ศึกษาจาก Betting in Football – FIFA ซึ่งให้มุมมองเกี่ยวกับการจัดราคาบอลในระบบสากลและตัวอย่างการกำหนดราคาแบบ 1X2 จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
🟢 ใช้กลยุทธ์ “ดูราคาเปิด-ปิด” เพื่อจับทางตลาด
บางครั้งราคาค่าน้ำแบบ 1X2 จะขยับก่อนเริ่มเกม หากคุณเห็นว่าราคาของ “1” ขยับลงเรื่อย ๆ จาก 1.60 → 1.45 อาจแปลว่ามีแรงเดิมพันฝั่งเจ้าบ้านมาก แสดงถึงความมั่นใจของตลาด ซึ่งคุณสามารถพิจารณาตามได้ในกรณีที่ข้อมูลสอดคล้องกัน
การใช้เครื่องมือดูราคาเปิด-ไหล เช่นจากเว็บ Livescore หรือ Flashscore ก็ช่วยให้คุณเกาะติดความเคลื่อนไหวของราคาแบบ Real-time ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับรูปแบบ 1X2 ที่อิงผลแพ้ชนะโดยตรง
สรุป 1X2 เหมาะกับใคร? ควรเลือกเล่นแบบไหนดี
ถ้าคุณกำลังมองหารูปแบบการเดิมพันที่ ไม่ซับซ้อน เล่นง่าย และใช้แค่ความเข้าใจพื้นฐานของฟุตบอล การแทงบอลแบบ 1X2 คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นในโลกของการแทงบอล หรือผู้ที่ไม่ถนัดเรื่องการคำนวณราคาต่อรองแบบแฮนดิแคป
รูปแบบนี้เปิดโอกาสให้คุณโฟกัสแค่ผลลัพธ์ของเกม — ชนะ, เสมอ หรือแพ้ — โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องลุ้นให้ทีมยิงกี่ลูกถึงจะได้บิล นั่นทำให้คุณสามารถนำเอาสถิติพื้นฐาน ฟอร์มทีม และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับฟุตบอล มาใช้ตัดสินใจได้ทันที